รีพอร์ต
โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ระเบิดฟอร์มซัดแฮตทริคช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะโอลิมเปียกอส 3-0 พลิกสถานการณ์จากตามหลัง 0-2 ในเลกแรก กลับมาผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยประตูรวม 3-2
ย้อนกลับไปเมื่อสัปดาห์นี้ของ 30 ปีที่แล้ว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาก่อน เมื่อต้องตามหลังบาร์เซโลน่าในศึกคัพ วินเนอร์ส คัพ จากเลกแรกอยู่ 0-2 แต่เมื่อกลับมาเล่นในบ้านก็สามารถพลิกแซงกลับมาเอาชนะไปได้
สำหรับเกมที่พบกับโอลิมเปียกอสนี้ ทีมปีศาจแดงเป็นฝ่ายเปิดเกมบุกเข้าใส่อย่างหนัก เวย์น รูนี่ย์ ได้โอกาสโหม่งจากลูกเปิดทางฝั่งซ้ายมาให้ของ ไรอัน กิ๊กส์ แต่บอลก็พุ่งไปชนเสา และกองหลังทีมเยือนก็สกัดทิ้งออกไปได้ อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นาน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มาได้ลูกจุดโทษ เมื่อ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ถูกเข้าปะทะจากด้านหลังล้มลงในกรอบเขตโทษ และก็เป็นศูนย์หน้าชาวดัตช์ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไปด้วยตัวเอง
เจ้าถิ่นต้องขอบคุณ ดาบิด เด เคอา ที่ทำให้สกอร์ยังคงเป็น 1-0 เมื่อเขาใช้ขาเซฟลูกยิงจากโอลิมเปียกอสถึง 2 ครั้งติดต่อกันในนาทีที่ 40 ครั้งแรกจากการโหม่งของ ดาบิด ฟุสเตอร์ และอีกครั้งเป็นการยิงยัดเสาแรกจาก อเลฮานโดร โดมิงเกซ แถมก่อนหมดครึ่งแรก ทีมปีศาจแดงยังมาได้ลูกที่ 2 อีกจาก ฟาน เพอร์ซี่ คนเดิม เขาชาร์จลูกเปิดจากรูนี่ย์เข้าไปให้ทีมขึ้นนำ 2-0 และตีเสมอในสกอร์รวมเป็น 2-2
ทีมของ เดวิด มอยส์ มากุมความได้เปรียบหลังเริ่มครึ่งหลังมาได้แค่ 6 นาที เมื่อ ฟาน เพอร์ซี่ ซัดลูกฟรีคิกจากระยะ 25 หลาผ่านมือ โรแบร์โต้ กาโก้ เข้าไปเป็น 3-0 โดยก่อนสับไกก็เป็นรูนี่ย์ที่วิ่งหลอกให้ผู้รักษาประตูทีมเยือนหลงจังหวะด้วย
โอลิมเปียกอสมาได้ลุ้นบ้างจากจังหวะซัดด้วยขวา แต่บอลก็ไปตรงตัว เด เคอา ที่รับติดมือเอาไว้ได้
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าจะบวกสกอร์เพิ่มเป็น 4 ลูกในนาทีที่ 75 เมื่อ ฟาน เพอร์ซี่ ผ่านเข้ากลางให้ แดนนี่ เวลเบ็ค แปโล่งๆ แต่เขากลับยิงพลาด ทำให้กองหลังโอลิมเปียกอสสกัดจากเส้นเอาไว้ได้แบบไม่ยากนัก
ช่วงท้ายเกม รูนี่ย์มีโอกาสยิงโค้งด้วยขวา แต่บอลก็หลุดกรอบออกไป จากนั้นก็ไม่มีฝั่งไหนทำอะไรกันได้อีก จบเกมจึงเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เอาชนะไปด้วยสกอร์ 3-0 รวมผล 2 นัดชนะ 3-2 ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ โดยจะมีการจับฉลากประกบคู่กันในวันศุกร์ที่ 21 มีนาคมนี้
สถิติ